อาหารที่ควรเพิ่มและหลีกเลี่ยงระหว่างการรักษามะเร็ง

อาหารที่ควรเพิ่มและหลีกเลี่ยงระหว่างการรักษามะเร็ง

มะเร็งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณในทุกด้าน รวมถึงความอยากอาหารและการรับประทานอาหาร

Dr. Selvi Rajagopal ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมที่ Johns Hopkins Medicine ได้มีการอธิบายว่าเหตุใดอาหารของคุณจึงมีความสำคัญมากในระหว่างการรักษาโรคมะเร็งและให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่ควรเติมและหลีกเลี่ยง ซึ่งบทความนี้จะมาเเปลบทความที่ Dr. Selvi Rajagopal เขียนไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็ง

 

การรักษามะเร็งส่งผลต่ออาหารของคุณอย่างไร?

การรักษามะเร็ง เช่นเคมีบำบัดและการฉายรังสีบางรูปแบบ สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้หลายอย่าง ได้แก่:

  • อาการท้องผูกซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและลดความอยากอาหารลงอีก
  • โรคอุจจาระร่วงซึ่งสามารถระบายสารอาหารที่ดีในร่างกายของคุณ
  • อาการเหนื่อยล้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณออกกำลังได้น้อยลง คุณจึงเผาผลาญแคลอรี่น้อยลงและไม่รู้สึกหิวตลอดทั้งวัน
  • อาการสูญเสียรสชาติ ซึ่งทำให้อาหารไม่น่ารับประทาน
  • อาการคลื่นไส้และอาเจียน ซึ่งอาจลดความอยากอาหารและทำให้น้ำหนักลด

เเต่จริงๆเเล้ว ผลข้างเคียงต่างๆก็ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งที่คุณเป็นด้วย

เช่นการรักษามะเร็งเต้านมและมะเร็งเม็ดเลือดมักเกี่ยวข้องกับการใช้ สเตียรอยด์ ซึ่งสเตียรอยด์สามารถเพิ่มความอยากอาหารของคุณและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ เเละอาจนำไปสู่การดื้อต่ออินซูลินและการเพิ่มน้ำหนัก ดังนั้นแทนที่จะลดน้ำหนัก มันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มน้ำหนักเล็กน้อยระหว่างการรักษามะเร็ง

หรือคนที่เป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกจะถูกบำบัดด้วยฮอร์โมนหลังการให้เคมีบำบัด ซึ่งยาที่ให้จะระงับการผลิตเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญ หากการเผาผลาญของคุณช้าลง คุณอาจเพิ่มน้ำหนักได้

 

ทำไมอาหารที่คุณทานมีความสำคัญในช่วงการรักษาโรคมะเร็ง?

เนื่องจากการรักษามะเร็งอาจทำให้ความอยากอาหารและน้ำหนักตัวไม่คงที่ คุณจึงต้องให้ความสำคัญกับอาหารของคุณอย่างใกล้ชิด นอกจากการช่วยให้คุณรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเเล้ว การรับประทานอาหารที่ครบหมู่ระหว่างการทำเคมีบำบัดหรือการฉายรังสีสามารถ:

  • ช่วยจัดการผลข้างเคียงของการรักษา
  • เพิ่มพลังงาน
  • เพิ่มกล้ามเนื้อ
  • รักษาการทำงานของภูมิคุ้มกัน
  • ลดการอักเสบ

 

คุณควรทานอาหารอะไรในช่วงการรักษาโรคมะเร็ง?

ใครก็ตามที่เจ็บป่วยเรื้อรัง แม้ว่าจะไม่ใช่มะเร็งก็ตาม ก็ควรกินอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันที่ดี ธัญพืชไม่ขัดสี วิตามินและแร่ธาตุ เเละถ้าเป็นไปได้ คุณควรปรับเปลี่ยนมากินอาหารเหล่านี้ก่อนเริ่มการรักษามะเร็ง เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีตั้งเเต่ก่อนเข้ารับการรักษา

โปรตีนจากพืช

อาหารที่ดีที่สุดที่คุณควรรับประทานระหว่างการรักษามะเร็งคือโปรตีนจากพืช ซึ่งหมายถึงการรับประทานผักจำนวนมากรวมถึงถั่วต่างๆ พืชตระกูลถั่วและเมล็ดพืช เนื่องจากพวกเขามีวิตามินและแร่ธาตุในระดับที่สูง

เเต่หากคุณชอบกินโปรตีนจากสัตว์ ให้เลือกตัวเลือกที่ไม่มีไขมัน เช่นไก่หรือปลา

ไขมันดี

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fats) และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (polyunsaturated fats) มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน

อะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดองุ่น และวอลนัทล้วนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งช่วยในการต้านการอักเสบและช่วยให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น

คาร์โบไฮเดรตที่ดี

เมื่อเลือกคาร์โบไฮเดรต ให้เลือกอาหารที่มีการแปรรูปน้อยที่สุด เช่นโฮลวีต รำและข้าวโอ๊ต อาหารเหล่านี้มีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ (soluble fibers) ซึ่งช่วยบำรุงรักษาแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ได้

นอกจากนี้ เส้นใยที่ละลายน้ำได้ยังช่วยส่งเสริมการผลิตกรดไขมันสายสั้น (short-chain fatty acids) ซึ่งเอื้อต่อทุกสิ่งตั้งแต่กระตุ้น metabolism ไปจนถึงการซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย

วิตามินและแร่ธาตุ

วิตามินและแร่ธาตุช่วยในกระบวนการของเอนไซม์ในร่างกายของเรา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ หากเป็นไปได้ ให้เลือกอาหารที่ถูกเสริมด้วยวิตามิน D ซึ่งอาจรวมอยู่ในนม น้ำส้ม โยเกิร์ตและซีเรียลบางชนิด

 

คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไรในช่วงการรักษาโรคมะเร็ง?

ระหว่างการรักษามะเร็ง คุณควรต้องระวังเป็นพิเศษในสิ่งที่จะเข้าสู่ร่างกายของคุณ อ่านฉลากโภชนาการและเตรียมอาหารของคุณเองให้ได้มากที่สุด ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่ผ่านการกลั่นและแปรรูปสูง นอกจากนี้ คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารทอดที่มีน้ำมันเติมไฮโดรเจนมาก เพราะน้ำมันเติมไฮโดรเจนอาจเพิ่มเเละไปกระตุ้นการอักเสบได้

เนื่องจากผู้ที่เป็นมะเร็งมักจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ให้ลองงดอาหารต่อไปนี้ ที่มีความเสี่ยงต่อการทำให้คุณเจ็บป่วยจากอาหารได้:

  • ปลาที่สุกเล็กน้อยหรือปลาดิบ เช่น ซูชิ
  • ไข่ลวกที่สุกน้อยหรืออาหารที่มีไข่ดิบ เช่น มายองเนสทำเอง
  • ชีสและผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ
  • ผลไม้หรือผักที่ไม่ได้ล้าง

 

พฤติกรรมการกินของคุณสามารถช่วยจัดการผลข้างเคียงของการรักษามะเร็งได้อย่างไร?

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินของคุณสามารถช่วยให้คุณจัดการกับผลข้างเคียงที่ได้รับจากการรักษามะเร็งได้ เช่น:

  • สูญเสียความอยากอาหาร – ให้คุณทานอาหารมื้อเล็กๆหรือของว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการตลอดทั้งวัน แทนที่จะทานอาหารมื้อใหญ่สามมื้อ
  • ท้องผูก – ให้คุณดื่มน้ำปริมาณมาก และเพิ่มผักและถั่วในมื้ออาหารของคุณ
  • ท้องเสีย – ให้คุณเลือกอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีโซเดียม (เครื่องดื่มเกลือแร่หรือน้ำซุป) และโพแทสเซียม (กล้วยและน้ำผลไม้สด)
  • สูญเสียรสชาติ – ให้ลองทานอาหารใหม่ๆที่มีเครื่องเทศหรือน้ำหมักที่เเปลกใหม่ หรือคุณจะเลือกเพิ่มรสชาติที่ทำให้เข้มข้นขึ้น เช่นเพิ่มน้ำมะนาว
  • อาการคลื่นไส้ – ให้ทานอาหารต้านอาการคลื่นไส้ เช่น ส้ม ขิงและน้ำมันสะระแหน่ คุณสามารถดูดมะนาวจากลูก ดื่มชาขิงหรือเคี้ยวขิงก็ได้

 

บทความเเปลจาก: https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/cancer/cancer-diet-foods-to-add-and-avoid-during-cancer-treatment
รูปภาพโดย Travis Yewell จาก Unsplash