บลูเบอร์รี่เป็นหนึ่งในผลไม้แรกๆ ที่ถือว่าเป็น ‘superfood’ ซึ่งผลบลูเบอร์รี่มีหลายพันธุ์เติบโตในภูมิภาคต่างๆของโลก มีขนาดที่เเตกต่างกันไป เเละบลูเบอร์รี่ที่ถูกเพาะปลูกจะหวานกว่าพันธุ์ที่ปลูกตามธรรมชาติ
เเต่อย่างไรก็ตาม บลูเบอร์รี่ทั้งหมดมีลักษณะที่เฉพาะ คือสีม่วงอมน้ำเงินเหมือนกันและไซส์เมล็ดเล็กๆ
คุณค่าทางโภชนาการของบลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่ 80 กรัมให้:
- 32Kcal/135KJ
- โปรตีน 0.7g
- ไขมัน 0.2g
- คาร์โบไฮเดรต 7.3 กรัม
- ไฟเบอร์ 1.2g
- โพแทสเซียม 53 มก
- วิตามินอี 0.75 มก
- วิตามินซี 5 มก.
5 สุดยอดผลประโยชน์ต่อสุขภาพของบลูเบอร์รี่คืออะไร?
1 อาจป้องกันโรคต่างๆได้
บลูเบอร์รี่มีระดับสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้ที่บริโภคกันทั่วไป พวกมันอุดมไปด้วยสารประกอบจากพืชที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เรียกว่า “phytochemicals” (เช่น ellagic acid เเละ anthocyanidins) ซึ่งสาร phytochemicals เหล่านี้มีหน้าที่สร้างสีน้ำเงิน คราม และสีแดงของผลเบอร์รี่นั้นเอง เเละยังได้รับการวิจัยอย่างกว้างขวางถึงคุณสมบัติในการช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ
2 อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจ
การวิจัยพบว่า anthocyanidins ซึ่งพบในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาจสนับสนุนระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยการสนับสนุนสุขภาพของหลอดเลือดและลดความตึงของหลอดเลือดแดงซึ่งมักมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น
3 อาจช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
บลูเบอร์รี่มีปริมาณน้ำตาลในระดับต่ำและเป็นแหล่งใยอาหารที่ดี ดังนั้นจึงมีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ นอกจากนี้ ผลเบอร์รี่ยังมีปริมาณฟลาโวนอยด์ที่สูง
ซึ่งรวมๆเเล้ว อาจช่วยปรับปรุงความไวของอินซูลินให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เเละสามารถจัดการระดับน้ำตาลในเลือดได้
4 อาจช่วยรักษาสุขภาพดวงตา
การทานบลูเบอร์รี่เป็นประจำอาจช่วยปรับปรุงการมองเห็นและป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาที่มาพร้อมกับอายุ ซึ่งอาจเป็นเพราะผลบลูเบอร์รี่ทำให้การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังดวงตาดีขึ้น และสารต้านอนุมูลอิสระในผลบลูเบอร์รี่อาจป้องกันเเละช่วยลดโอกาสที่ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมได้
5 อาจบรรเทาปัญหาทางเดินอาหารและการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ยาแผนโบราณชี้เเนะว่าการทานบลูเบอร์รี่อาจเป็นวิธีการรักษาที่มีประโยชน์สำหรับคนที่มีภาวะทางเดินอาหารหรือภาวะการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ