หัวข้อว่าการดื่มกาเเฟเป็นเรื่องดีหรือไม่คงเป็นประเด็นที่ยังถกเถียงอยู่ในปัจจุบัน งานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่ากาเเฟดีสำหรับคุณ ในขณะที่อีกชิ้นหนึ่งบอกว่ากาเเฟอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพคุณ โดยหนึ่งในข้อสงสัยหลักของคนคือการดื่มกาเเฟมีผลกระทบต่อการเกิดโรคมะเร็งหรือไม่ ซึ่งถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีงานวิจัยไหนที่พบเจอความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มกาเเฟกับการเกิดโรคมะเร็ง
การดื่มกาเเฟกับการเกิดมะเร็ง
ในปี 2559 คณะทำงานของ International Agency for Research on Cancer (IARC) ที่อยู่ภายใต้องค์การอนามัยโลก (World Health Organization, WHO) ทำการวิจัยเพื่อประเมินว่าการดื่มกาแฟก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ ซึ่งหลังจากการทบทวนผลการศึกษามากกว่า 1,000 ชิ้น พวกเขาสรุปว่ายังไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่เเสดงว่ากาแฟเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้หลายงานวิจัยยังพบอีกว่าการบริโภคกาแฟไม่มีผลกระทบต่อการพัฒนาของมะเร็งตับอ่อน (Pancreas Cancer) มะเร็งต่อมลูกหมาก (Postage Cancer) และมะเร็งเต้านม (Breast Cancer)
เเละนอกจากนี้ ในปี 2560 ก็มีการวิจัยมากมายที่พบหลักฐานว่า การดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงในการก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งตับ (Liver Cancer) เเละมะเร็งผิวหนัง (Melanoma)
สาร Acrylamide ในกาเเฟต่อการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
เเต่ก่อนเข้าประเด็น เราควรรู้ก่อนว่าสาร Acrylamide คือสารอะไร
สาร Acrylamide เป็นสารเคมีที่เกิดขึ้นในอาหารประเภทอบกรอบ ทอด ปิ้ง คั่วทั้งหลาย รวมทั้งกาแฟด้วย ซึ่งสารนี้ถูกจัดประเภทโดย National Toxicology Program Trusted Source ว่าอยู่ในหมวดหมู่ของสารที่สามารถก่อเกิดมะเร็งในมนุษย์ โดยการอ้างอิงจากการศึกษากับสัตว์ทดลอง
เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่พบงานวิจัยไหนที่สรุปว่าการได้รับสาร Acrylamide ผ่านการรับประทานกาเเฟทำให้เกิดมะเร็ง ซึ่งอาจเป็นเพราะกาแฟมีปริมาณสาร Acrylamide ที่น้อยมากเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่น
ข้อสรุป
จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการวิจัยไหนที่สรุปอย่างเเน่ชัดว่าการดื่มกาเเฟเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
ในทางกลับกัน เรายังพบอีกว่า ในบางกรณี การบริโภคกาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น The Academy of Nutrition and Dietetics ก็เเนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มกาเเฟมากกว่า 4 เเก้วต่อวัน เเต่การดื่มกาเเฟทุกเช้าวันละเเก้วยังเป็นสิ่งที่ทุกคนยังสามารดื่มด่ำกับมันเเบบไร้กังวลได้
