การเป็นเบาหวานหมายความว่าคุณต้องตระหนักถึงทุกสิ่งที่คุณกินหรือดื่ม การทราบจำนวนคาร์โบไฮเดรตที่คุณกินเข้าไปและผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
American Diabetes Association (ADA) มักแนะนำเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่หรือมีแคลอรี่ต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น
การเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมสามารถช่วยคุณในการ:
- หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น
- จัดการอาการของคุณไม่ให้กำเริบ
- คงน้ำหนักของคุณให้อยู่ในระดับที่ดี
11 เครื่องดื่มที่ดีที่สุด
เครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำหรือไม่มีแคลอรี่มักจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคนที่เป็นเบาหวาน ลองบีบมะนาวสดหรือน้ำมะนาวลงในเครื่องดื่มของคุณเพื่อน้ำเเคลอรี่ต่ำที่ให้ความสดชื่น สามารถดับกระหายของคุณได้ดีทีเดียว
เเต่ต้องจำไว้ว่า แม้ตัวเลือกที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น น้ำผัก ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ หรือผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำก็ต้องระวังเพราะนมพวกนี้มักจะประกอบด้วยน้ำตาลแลคโตส
ไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน ที่บ้านหรือที่ร้านอาหาร 11 เครื่องดื่มต่อไปนี้คือตัวเลือกที่เป็นมิตรมากที่สุดกับคนเป็นเบาหวาน
1 Water (น้ำ)
น้ำเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมันจะไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเเละไม่ทำให้ร่างกายของคุณขาดน้ำ
การดื่มน้ำให้เพียงพอสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณกำจัดกลูโคสส่วนเกินผ่านทางปัสสาวะได้ สถาบันการแพทย์แนะนำให้ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ดื่มประมาณ 13 ถ้วย (3.08 ลิตร) ต่อวัน และผู้หญิงดื่มประมาณ 9 ถ้วย (2.13 ลิตร)
หากน้ำเปล่าไม่ถูกใจคุณ ลองสร้างความหลากหลายโดยการ:
- ใส่มะนาวหรือส้มลงไปในน้ำ
- ใส่สมุนไพรรสต่างๆ เช่น ใบสะระแหน่ ใบโหระพา หรือบาล์มมะนาว
- บดราสเบอร์รี่สดหรือแช่แข็งลงในเครื่องดื่มของคุณ
2 Sparkling Water (โซดา)
Sparkling water เป็นทางเลือกที่ปราศจากน้ำตาลและให้ฟองมาก เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มอัดลมอื่นๆ เช่น น้ำอัดลม
น้ำโซดายังมีหลายรสชาติให้เลือก เเละคุณก็สามารถที่จะลองเพิ่มผลไม้สดและสมุนไพรต่างๆเพื่อให้เครื่องดื่มของคุณมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
เช่นเดียวกับน้ำเปล่า น้ำโซดาปราศจากแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล น้ำอัดลมเป็นวิธีที่ดีในการคงความชุ่มชื้นและคงระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
3 Tea (ชา)
แหล่งการวิจัยมีการสรุปให้เห็นว่าชาเขียวมีผลดีต่อสุขภาพโดยทั่วไปของคุณ
การศึกษากลุ่มใหญ่ในปี 2564 ที่มีประชากรมากกว่าครึ่งล้านคนแนะนำว่าการบริโภคชาเขียวทุกวันอาจลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ เเต่อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมก่อนจะสรุปอย่างเเน่ชัด
เเต่ถ้าคุณคิดที่จะเลือกดื่มชา ไม่ว่าจะชาเขียว ชาดำ ชาขาว หรือชาอู่หลง คุณควรหลีกเลี่ยงชาที่เติมน้ำตาล เเละถ้าคุณต้องการเพิ่มรสชาติชาให้สดชื่นขึ้น คุณควรเติมมะนาวสักสองสามชิ้นลงในชาเย็นของคุณ
4 Herbal Tea (ชาสมุนไพร)
ชาสมุนไพรต่างๆ เช่น ชาดอกคาโมไมล์ ชาดอกชบา ชาขิง และชาเปปเปอร์มินต์ ล้วนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
ชาสมุนไพรไม่เพียงแต่ปราศจากคาร์โบไฮเดรต แคลอรี่ และน้ำตาล แต่ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถต่อสู้กับโรค เช่น แคโรทีนอยด์ (carotenoids) ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) และกรดฟีนอล (phenolic acids)
5 Unsweetened Coffee (กาเเฟไม่หวาน)
การดื่มกาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากกาเเฟอาจช่วยการเผาผลาญของน้ำตาลได้ดีขึ้น
เช่นเดียวกับชา กาแฟของคุณต้องไม่หวาน การเพิ่มนม ครีม หรือน้ำตาลลงในกาแฟของคุณจะเพิ่มจำนวนแคลอรี่โดยรวมและอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ
6 Vegetable Juice (น้ำผัก)
ปกติเเล้ว น้ำผลไม้ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตาล 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นคุณควรลองทำน้ำผักของคุณเองโดยเลือกผักใบเขียว ขึ้นฉ่าย หรือแตงกวา เเละผสมกับผลเบอร์รี่หนึ่งกำมือเพื่อความอร่อยกลมกล่อมเเละเพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุที่ครบถ้วน เเต่อย่าลืมนับผลเบอร์รี่เป็นส่วนหนึ่งของคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดในแต่ละวัน
7 Low-Fat Milk (นมไขมันต่ำ)
นมมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ แต่การดื่มนมจะเพิ่มคาร์โบไฮเดรตในอาหารของคุณ
นอกจากนี้ คุณควรเลือกนมแบบไม่หวาน ไขมันต่ำ หรือเเบบที่พร่องมันเนย และควรดื่มไม่เกินสองถึงสามแก้วต่อวัน
8 Milk Alternatives (นมทางเลือก)
นมทางเลือกอื่น เช่น นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต นมข้าว นมถั่วเหลืองหรือนมมะพร้าวป็นนมที่ปราศจากนมและมีคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำกว่านมทั่วไป
บางครั้งนมพวกนี้ยังเสริมด้วยสารอาหารที่สำคัญเช่นแคลเซียมและวิตามินดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีบทบาทสำคัญในสุขภาพกระดูก
ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณควรเช็คฉลากสินค้าให้ดี เพราะนมถั่วเหลืองและนมข้าวมักมีคาร์โบไฮเดรต และนมถั่วหลายชนิดก็เเทบไม่มีโปรตีนเลย
9 Green Smoothie (สมูทตี้น้ำผัก)
สมูทตี้สีเขียวเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเติมไฟเบอร์และสารอาหารต่างๆให้กับร่างกายของคุณ
ลองทำกินเองโดยใช้ผักสีเขียว เช่น ผักโขม คะน้า หรือขึ้นฉ่าย แล้วจับคู่กับผงโปรตีนและผลไม้สักเล็กน้อยเพื่อสมูทตี้โฮมเมดที่ให้สุขภาพที่ดี
เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องจำไว้ว่าผลไม้มีคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นอย่าลืมนับรวมกับปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่คุณได้รับในแต่ละวัน
10 Sugar-Free Lemonade (น้ำมะนาวไร้น้ำตาล)
Sugar-free lemonade เป็นเครื่องดื่มที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำเเละยังให้ความสดชื่นและความอร่อยอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถทำน้ำมะนาวไร้น้ำตาลได้เองที่บ้านโดยใช้ส่วนผสมง่ายๆเพียงไม่กี่อย่าง
ในการเริ่มต้น ผสมน้ำโซดากับน้ำมะนาวคั้นสด เเละก็เติมน้ำแข็งและสารให้ความหวานที่ปราศจากน้ำตาลที่คุณเลือก เช่น หญ้าหวาน
11 Kombucha (ชาหมัก)
คอมบูชา หรือชาหมัก เป็นเครื่องดื่มหมักที่ทำมาจากชาดำหรือชาเขียว เเละเป็นแหล่งของโปรไบโอติกชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ในลำไส้ เเละก็ยังได้รับการศึกษามาอย่างดีเกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อีกด้วย
แม้ว่าเนื้อหาทางโภชนาการที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภท แบรนด์ และรสชาติที่เฉพาะเจาะจง คอมบูชา 1 เเก้วโดยทั่วไปจะมีคาร์โบไฮเดรตเเค่ประมาณ 7 กรัม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่กำลังคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตอยู่
3 เครื่องดื่มที่เเย่ที่สุด
ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน คุณควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเมื่อทำได้ เพราะพวกมันไม่เพียงแต่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเท่านั้น แต่พวกมันยังกินปริมาณส่วนมากของแคลอรี่ที่แนะนำในแต่ละวันอีกด้วย
1 Regular Soda (น้ำอัดลม)
น้ำอัดลมขึ้นอันดับหนึ่งในรายการเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากจะมีผลเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
โดยเฉลี่ยแล้ว ทาง ADA ตั้งข้อสังเกตว่าคนๆหนึ่งสามารถรับน้ำตาลมากถึง 40 กรัมและแคลอรี่ถึง 150 แคลอรี่ได้จากการดื่มน้ำอัดลม
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับการเพิ่มของน้ำหนักและความเสี่ยงที่จะเป็นฟันผุ ดังนั้นจึงควรทิ้งมันไว้บนชั้นวาง เเละไปหาน้ำเปล่าหรือชาที่ผสมผลไม้ดื่มแทน
2 Energy Drinks (เครื่องดื่มชูกำลัง)
เครื่องดื่มชูกำลังมีทั้งคาเฟอีนและคาร์โบไฮเดรตสูง เเละผลการศึกษาในปี 2561 ยังได้พบอีกว่าเครื่องดื่มชูกำลังอาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น
คาเฟอีนมากเกินไปสามารถ:
- ทำให้เกิดความประหม่า
- เพิ่มความดันโลหิตของคุณ
- ทำให้นอนไม่หลับ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ
3 Sweetened or Unsweetened Fruit Juices (น้ำผลไม้)
แม้ว่าน้ำผลไม้ 100 เปอร์เซ็นต์จะดีในปริมาณที่พอเหมาะและเป็นแหล่งของสารอาหารอย่างเช่น วิตามินซี แต่น้ำผลไม้ทุกชนิด ไม่ว่าจะหวานหรือไม่หวาน สามารถเพิ่มคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูงและยังให้น้ำตาลธรรมชาติสูง ซึ่งการรวมกันนี้อาจทำลายระดับน้ำตาลในเลือดของคุณและเพิ่มความเสี่ยงในการเพิ่มน้ำหนักได้
หากคุณมีความกระหายในน้ำผลไม้ที่ไม่หาย ให้เลือกน้ำผลไม้ที่บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์และไม่มีน้ำตาลเพิ่ม เเละควรจำกัดขนาดส่วนของการดื่มไว้ที่ 0.12 ลิตร ซึ่งจะช่วยลดการบริโภคน้ำตาลของคุณเหลือเพียง 3.6 ช้อนชา (15 กรัม)
หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือการลองเติมน้ำผลไม้ที่คุณชอบสักหนึ่งหรือสองช้อนชาลงในน้ำโซดาเเทน